Mac App Store
เปิดให้ใช้งานกันมาได้ซักพักแล้วสำหรับ Mac App Store โดยจริงๆ
แล้วนี่เป็นหนึ่งในของใหม่ที่จะมาใน Lion แต่ด้วยความใจร้อน Steve Jobs
อยากจะดันออกมาให้ชสวโลกได้สัมผัสกันก่อน
เราจึงได้ใช้งานกันไปเป็นที่เรียบร้อยใน Mac OS X 10.6.6 นั่นเอง ตัว Mac App Store ก็คงไม่มีอะไรต้องพูดถึงมาก
โดยเป็นโปรแกรมสำหรับดาวน์โหลด App ต่างๆ ลงเครื่องด้วย iTunes Account
ที่เราใช้กันบน iOS นั่นเอง
Launchpad
Launchpad เป็นฟังก์ชั่นการทำงานที่เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก iOS
แทบจะทุกประการ
โดยเป็นการจำลองหน้าจอจัดเรียงไอคอนของโปรแกรมทั้งหมดที่มีอยู่ในเครื่อง
ซึ่งลักษณะก็จะเหมือนกับบน iOS โดยเราสามารถเลื่อนหน้าจอไปหน้าอื่นๆ ได้
และสามารถจัดส่วนของโฟลเดอร์ต่างๆ ได้เหมือนบน iOS เป๊ะ
เรียกได้ว่างานนี้ใครใช้ iOS มาก่อนสามารถปรับตัวเข้ากับ Mac OS X Lion
ได้สบายๆ
โปรแกรมแบบ Full Screen
ใน Lion เราสามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆ ในรูปแบบ Full Screen เต็มจอได้
(หากโปรแกรมนั้นรองรับ) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้หลายๆ
คนที่คุ้นเคยการใช้งานแบบเต็มจอบน Windows รอคอยกันมานาน
โดยลักษณะการใช้งานคือจะมีไปคอนสำหรับขยายโปรแกรมนั้นๆ
ให้เต็มหน้าจออยู่ทางด้านมุมขวาบนสุดของโปรแกรม
ซึ่งสามารถกดเพื่อขยายโปรแกรมให้เต็มจอได้ทันที
เรียกว่าคราวนี้แต่ละโปรแกรมจะดูสวยงามเต็มจอ
และกำจัดบางส่วนที่รกสายตาออกไป ซึ่งก็น่าจะถูกใจกับใครหลายๆ คน
Mission Control
อีกหนึ่งในความสามารถชูโรงของ Lion นั่นก็คือ Mission Control
โดยจะเป็นการรวมการทำงานของระบบ Expose และ Dashboard เข้าด้วยกัน
โดยเราสามารถใช้ Mission Control ในการดูว่าเราเปิดโปรแกรมอะไรอยู่
หรือจะดูว่าเปิด Finder ใว้กี่หน้าต่างก็ทำได้
โดยจะมีการจัดหมวดหมู่ตามโปรแกรมและจัดเรียงอย่างสวยงาม
โดยด้านบนสุดเมื่อใช้งาน Mission Control
ก็จะเป็นบรรดาโปรแกรมที่กำลังทำงานแบบเต็มหน้าจออยู่
รวมไปถึงสามารถเข้าถึงส่วนของ Dashboard ได้จากที่นี่เลยด้วย
การใช้งาน Multi-Touch แบบใหม่ๆ
ใน Lion จะมีการเพิ่มการใช้งาน Multi-Touch รูปแบบใหม่ๆ เข้ามามากมาย ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับ Interface และลูกเล่นต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาเยอะไม่แพ้กัน ซึ่งคราวนี้เราจะสามารถใช้งาน Multi-Touch ระดับ 5 นิ้วได้แล้ว (สำหรับการเปิดการทำงาน Launchpad) หรือจะเป็นการใช้งาน 3 นิ้วรูปแบบต่างๆ ในหน้าจอต่างๆ ก็มีการเพิ่มเข้ามาเช่นกัน รับรองได้ว่ามีอะไรให้เล่นกันเยอะมากๆ แน่นอน
Auto Save
บอกลา ระบบเซฟแบบเดิมๆ ไปได้เลย หลังจากนี้เราอาจจะลืมการกด cmd + s สำหรับการเซฟงานไปเลยก็เป็นได้ โดยระบบใหม่อย่างการเซฟอัตโนมัตใน Lion จะทำให้เราสามารถที่จะทำงานไปได้เรื่อยๆ โดยที่ตัวโปรแกรมที่เราทำงานอยู่จะคอยเซฟสถานะช่วงต่างๆ ให้ โดยไม่ได้เป็นการสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่จะเป็นการจัดเก็บข้อมูลแค่บางส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อประหยัดพื้นที่ Harddisk ให้มากที่สุด โดยเราสามารถเลือกที่จะ “lock” การทำงานดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ Auto Save แบบไม่ได้ตั้งใจได้เช่นกันVersions
ระบบ Versions เป็นระบบการบันทึกความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
ในไฟล์เอกสารแล้วจัดเก็บย้อนหลัง
โดยระบบจะบันทึกข้อมูลตอนที่เราเปิดไฟลืเอกสารหรือทุกๆ
ชั่วโมงที่เราทำงานบนเอกสารนั้นๆ
โดยเมื่อเราต้องการเรียกดูไฟล์เอวณืชั่นเก่าๆ ที่เราเคยทำไปในช่วงที่ผ่านมา
ก็สามารถเรียกดูได้ด้วยรูปแบบการใช้งานคล้ายๆ กับ Time Machine
ซึ่งเราสามารถคลิกเลือกไฟล์เดียวกันนั้นแต่เป็นเวอร์ชั่นเก่าๆ
เพื่อหยิบเอามาแทนที่เวอร์ชั่นปัจจุบัน
หรือจะแค่เลือกก๊อปปี้บางส่วนในเอกสารเวอร์ชั่นเก่ามาใช้ในเอกสารเวอร์ชั่น
ล่าสุดก็ทำได้
ทำงานไม่กลัวพังกับ Resume
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยคิดแบบเดียวกัน เมื่อกำลังทำงานอะไรบางอย่างอยู่ หรือมีการเปิดโปรแกรมหลายๆ โปรแกรมค้างใว้แล้วจำเป็นที่จะต้องรีสตาร์ทเครื่อง Mac ของเรา เราจะรู้สึกไม่อยากรีสตาร์ทซักเท่าไหร่เพราะโปรแกรมต่างๆ ที่เปิดทิ้งใว้จะหายไปหมด และต้องกลับมาไล่เปิดระลึกชาติกันไปอย่างเมามันส์ แต่ด้วยระบบ Resume ปัญหาดังกล่าวจะหมดไปโดยเราสามารถออกจากโปรแกรมใดๆ ได้ทันทีแล้วกลับมาเปิดโปรแกรมนั้นใหม่ด้วยสถานะเดิม หน้าตาแบบเดิมเหมือนที่เราได้ออกจากโปรแกรมมานั่นเอง
รูปแบบใหม่ หน้าตาใหม่ของ Mail 5
ใน Lion จะรวมเอาโปรแกรม Mail เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดก็คือเวอร์ชั่น 5
มาให้ด้วย โดยมีการออกแบบหน้าตาใหม่หมด ซึ่งดูแล้วก็คล้ายๆ กับ iPad
อีกแล้ว โดย Apple บอกว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากหน้าจอ Widescreen
ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ชอบหรือไม่ค่อยคุ้นกับหน้าตาแบบใหม่ของ
Mail 5 ก็สามารถกลับไปใช้ Classic Layout ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ใน Mail 5 ยังมีรูปแบบการจัดหน้าตาอีเมลในรูปแบบบทสนทนา (หรือ
Conversation) ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งดูแล้วก็สวยงามน่าใช้มากกว่าเดิมเยอะ
โยนไฟล์ผ่าน Wi-Fi ง่ายๆ ด้วย AirDrop
อีก หนึ่งสุดยอดฟีเจอร์ชูโรงอีกตัวของ Lion ได้แก่ Airdrop โดยเป็นรบบการส่งไฟล์หากันระหว่าง Mac ที่ใช้งาน Lion โดยที่ทั้งสองเครื่องไม่จำเป็นต้องต่อสายใดๆ , ไม่ต้องอยู่วง LAN เดียวกัน, และไม่ต้องใช้ Internet เลยด้วย
การทำงานของ AirDrop ก็ง่ายๆ
เพียงทั้งสองเครื่องที่ต้องการจะแชร์ไฟล์หากันต้องเข้าไปที่ไอคอน AirDrop
ที่อยู่ใน Finder แล้วทั้งสองเครื่องก็จะสแกนหากันโดยจะค้นหาผ่านสัญญาณ
Wi-Fi ของทั้งคู่ จากนั้นเราก็จะสามารถโยนไฟล์หากันผ่าน Wi-Fi ได้เลย
โดยไม่จำเป็นต้องต่อเข้า Network หรือต้องอยู่ใกล้กันใดๆ ทั้งสิ้น
Credit:
http://www.thaimacupdate.com/2011/02/27/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-mac-os-x-lion/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น