วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

5 ข้อจำกัดที่ควรรู้ของ Mac



       เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ ถ้าจะให้พูดแต่ข้อดีๆ ก็คงกระไรอยู่ ที่ในส่วนนี้จะพามาดูถึงข้อจำกัดที่เกิดขึ้นใน Mac และเชื่อได้ว่าจะเป็นเครื่องมือในการตัดสินว่าจะซื้อ Mac มาใช้งานหรือไม่ได้เป็นอย่างดี โดยขอแบ่งเป็น 5 ข้อหลักๆ ด้วยกัน ดังต่อไปนี้



1. เครื่อง Mac มีราคาสูงเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์แบรนด์อื่นๆ
ถ้าดูจากราคาแล้วจะเห็นได้ว่า Mac นั้นมีราคาที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปอยู่พอสมควร ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์แบรนด์อื่นๆ แล้วจะเห็นได้ในสเปกที่เท่ากัน เครื่อง Mac นั้นจะมีราคาที่แพงกว่าอยู่หลายพันบาท ถ้าดูผ่านๆ แล้วหลายคนอาจจะไม่ทราบถึงความต่าง ที่เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วจะเห็นว่า Mac  นั้นล้านแล้วแต่ใช้วัสดุคุณภาพสูง มีการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงาม รวมไปถึงมีระบบปฏิบัติการ Mac OS X และโปรแกรมอื่นๆ ติดมาให้อยู่แล้ว ซึ่งถ้าลองมาคำนวณจริงๆ ดูแล้ว Mac จัดได้ว่าเป็นสินค้าที่คุ้มค่า แต่ถ้าใครชอบของถูกๆ คงต้องมองข้าม Mac ไปเลย 




2. เครื่อง Mac มีพอร์ตเชื่อมต่อน้อยและอัพเกรดได้ยาก
ถ้าได้เคยเห็นและเครื่อง Mac มาบ้าง จะสังเกตเห็นได้ว่า พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์แบรนด์อื่น ก็ถือว่าค่อนข้างมีอยู่อย่างจำกัด แต่ก็ยังถือได้ว่าเพียงต่อต่อการใช้งานไม่ลำบากมากนัก อีกทั้งตัวเครื่องได้มีการประกอบมาอย่างดี ซึ่งถ้าไม่ชำนาญก็จะไม่สามารถถอดได้อย่างง่ายดายนัก หรือถ้าถอดออกมาก็จะเสี่ยงต่อการเป็นร่องรอย รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็ได้รับการออกแบบไม่ให้ถอดออกมาจากเครื่องได้อย่างง่ายๆ นอกจากนั้นแล้วอุปกรณ์บางอย่างต้องใช้ของ Mac เท่านั้น อุปกรณ์ทั่วไปจะไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้





3. เครื่อง Mac ไม่สามารถนำโปรแกรมใน windows มาใช้งานได้
แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นคนละระบบปฏิบัติการ โครงสร้างระบบภายในจึงแตกต่างกัน ซึ่งเราจะไม่สามารถนำโปรแกรมของ Windows มาติดตั้งในเครื่อง Mac ได้เลย และโปรแกรมใน Mac ก็ไม่สามารถเอาไปติดตั้งใน Windows ได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามระหว่าง Mac และ Windows ก็ยังมีโปรแกรมที่เหมือนกัน อย่าง Microsoft Office หรือ Photoshop รวมไปถึงมีโปรแกรมที่สามารถใช้ทดแทนกันได้อยู่มากมาย หรือถ้าต้องการใช้งานเฉพาะทางที่มีอยู่แต่ใน Windows จริงๆ ก็สามารถติดตั้ง Windows ลงในเครื่อง Mac ได้





4. แหล่งข้อมูลในการใช้งาน Mac ยังมีอยู่อย่างจำกัด
เป็นอีกข้อหนึ่งที่คนส่วนมากยังไม่หันมาใช้ Mac กัน เพราะกลัวว่าจะใช้งานไม่เป็น ถามคนรอบข้างก็ไม่สามารถตอบข้อสงสัยต่างๆ ใน Mac ได้ ส่งผลให้คนใช้ Mac ในบ้านของเรานั้นก็เลยมีอยู่อย่างจำกัด บางสาขาอาชีพบางสายงานเท่านั้นที่จะใช้งานเป็นจริงๆ และมีความรู้เกี่ยวกับการใช้งาน Mac ซึ่งเมื่อเทียบกับ Windows ที่มีอยู่อย่างมากมายแล้วนั้น ก็ถือว่าน้อยนิดมาก ประกอบกับหนังสือคู่มือในท้องตลาดก้ยังมีไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นการศึกษาต้องอาศัยในอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก โดยที่เราต้องเป็นคนเรียบเรียงเอง





5. ร้านขายและศูนย์บริการยังมีไม่มาก 
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันตัวแทนจำหน่ายของ Mac จะมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างมากมาย แต่นั่นก็จะเป็นเฉพาะในตัวเมืองเท่านั้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัดเรียกได้ว่าหาแทบไม่มี ซึ่งยังไงเมื่อเทียบกับทางฝั่งคอมพิวเตอร์พีซี ทั้งตัวแทนจำหน่ายและศูนย์ซ่อมบริการ ก็ถือว่ามีอยู่น้อยมากๆ สำหรับใครที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองหรือเข้ามาในเมืองบ่อยๆ ก็คงจะมีความลำบากอยู่ไม่น้อย เรียกได้ว่าถ้าไม่รักจริงก็คงไม่ได้ใช้ Mac ทีเดียวเชียว

                 

 



Credit: http://hitech.sanook.com/943264/10-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-mac-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-os-x-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87-5-%E0%B8%82%E0%B9%89/


MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com

10 เหตุผลที่ต้องใช้ Mac และระบบปฏิบัติการ OS X



             คงต้องยอมรับนะครับคอมพิวเตอร์อย่าง Mac ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของ MacBook Pro, MacBook Air รวมไปถึง iMac, Mac Mini และ Mac Pro ที่เป็บของแบรนด์อย่าง Apple น่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่หลายๆ คนใฝ่ฝันที่อยากได้มาครอบครองใช้งานกัน แน่นอนว่านอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูแล้วสวยงาม หรูหราและดูพรีเมียมแล้ว ยังเป็นจุดเด่นที่เมื่อเราเอาไปใช้งานที่ไหน เมื่อไหร่ ผู้คนรอบข้างก็ต่างให้ความสนใจอีกด้วย 



          แต่ในความเป็นจริงแล้วในตัวของ Mac เอง ยังประกอบด้วยอีกหลายๆ อย่าง ที่ทำให้ Mac นั้นมีความน่าใช้ อาทิ ระบบปฏิบัติการ Mac OS X ที่มีความเสถียร งานประกอบที่ดีเยี่ยม วัสดุที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบเป็นตัวเครื่องนั้นเป็นระดับเกรด A คุณภาพสูงทั้งหมด ส่งผลให้ผู้ที่ใช้งานระดับมือาชีพมักนำ Mac มาใช้กันอย่างแพร่หลายจนเป็นเรื่องปกติ อย่างช่างภาพช่างวีดีโอก็จะนำไปใช้ในงานตกแต่งรูปภาพและตัดต่อวีดีโอ ฯลฯ ที่เราเห็นได้จากโปรกล้องหรือเบื้องหลังภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง รวมไปถึงในส่วนของนักดนตรีที่ใช้งานการแต่งเพลงตัดทำเพลง นักสถาปนิกที่ใช้ในการออกแบบโครงสร้างบ้านหรืออาคาร 3 มิติ ซึ่งนั่นก็ล้านแล้วแต่ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ Mac ทั้งสิ้น



        ที่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะมีคำถามหรือสงสัยกันว่าทำไมต้องใช้งาน Mac มาในตอนนี้ทางทีมงาน NBS เลยจะขอนำเสนอเกี่ยวกับเหตุผลว่าทำไมเราต้องใช้ Mac ที่จะมาให้ข้อมูลเพื่อได้ทราบกัน โดยจะขอแบ่งเป็น 10 เหตุผล ดังต่อไปนี้



1. เปิดเครื่องพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยการที่ Apple มักจะป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นรายแรกอยู่แล้ว ในเรื่องของการเปิดเครื่องพร้อมใช้งานอย่างรวดเร็ว หรือตื่นขึ้นมาจาก Sleep ภายใน 2 วินาที เครื่อง Mac นั้นสามารถงานได้อยู่แล้ว โดยหลังจากกดปุ่ม Power ก็ใช้เวลาในการเปิดไม่นานก็พร้อมใช้งานในทันที รวมไปถึงการปิดเครื่องก็ถือว่าทำได้รวดเร็วมากๆ เช่นกัน 



2. ระบบปฏิบัติการมีความเสถียรสูงน่าใช้งาน
Mac OS X ที่อยู่ในตัวเครื่อง Mac นั้น ได้รับการพัฒนามจากระบบปฏิบัติการ Unix จึงมีความเสถียรภาพสูง ซึ่งจากผู้ที่เคยใช้งาน Mac มาบ้าง คงทราบกันเป็นอย่างดีว่าเวลาใช้งานไปนานๆ Mac จะไม่มีอาการเครื่องแฮงค์หรือค้างให้เห็นเลย หรือถ้าจะเกิดขึ้นก็จะนานๆ เป็นที นอกเหนือจากนั้นยังมีการริหารจัดการหน่วยความอย่างแรมได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังมีหน้าตาของระบบปฏิบัติการที่สวยงาม น่าใช้งาน



3. สะดวกสบายในการเชื่อมต่อ
ทุกวันนี้ในการใช้งานคอมพิวเตอร์เชื่อได้ว่าหลังจากเปิดเครื่องเสร็จ ที่ต้องทำต่อมาคือการเชื่อมต่อใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างแน่นอน ซึ่งในเครื่อง Mac นี้จะช่วยในการเชื่อมต่อเป็นเรื่องที่รวดเร็วกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นหลังการเปิดเครื่อง หรือหลังจากที่ตื่นจาก Sleep เครื่อง Mac จะพร้อมใช้งานในทันที รวมไปถึงในการตั้งค่าเครือข่ายต่างๆ ก็เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าเรานำ Mac ไปใช้งานเครือข่ายที่บ้าน ที่ทำงาน หรือตามร้านกาแฟ ก็สะดวกสบายกับการเชื่อมต่อ



4. ไม่มีไวรัสมาให้รำคาญใจ
นอกเหนือจาก Mac OS X จะเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความเสถียรสูง ยังมีความปลอดภัยด้านระบบการปกป้องเกี่ยวกับมัลแวร์หรือไวรัสอย่างที่เราพบ เจอใน Windows ซึ่งการเปลี่ยนแปลงระบบภายใน หรือเปลี่ยนแปลงการทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตินั้น Mac OS X นั้น ค่อนข้างที่จะเข็มงวด ต่างจาก Windows ที่พัฒนาจาระบบเดิมอยู่เสมอ จึงไม่ได้เน้นความปลอดภัยเท่าที่ควร อีกทั้งในส่วนของคนที่เขียนไวรัสขึ้นมานั้น นิยมเขียนให้กับ Windows ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปมากกว่า 




5. เรียนรู้และใช้งานได้ง่าย
ระบบปฏิบัติการ Mac OS X นั้นถือได้ว่าเป็นจุดที่สำคัญของเครื่อง Mac และได้ถูกสร้างขึ้นมาให้ใช้งานได้ง่าย อาทิ หน้าจอ Desktop ได้ถูกออกแบบมาให้มีไอคอนน้อยที่สุด ในส่วนของหน้าจอหลักของการใช้งานจึงไม่ดูรกรุงรัง แต่ก็ถือได้ว่ามีความสะดวกสบายในการใช้งานอยู่ สำหรับการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ก็เพียงแค่ลากไอคอนโปรแกรมไปยัง Finder ของ Application ที่ต้องการ และถ้าต้องการลบโปรแกรมเมื่อไหร่ ก็เพียงลากไปไว้ที่ถึงขยะแค่นั้น ส่วนในการค้นหาไฟล์ต่างๆ เพียงแต่พิมพ์สิ่งที่ต้องการลงไปในช่องค้นหา ก็จะปรากฏผลลัพธ์ในเวลาที่เรียกว่าไม่ต้องรอเลย




6. โปรแกรมที่แถมติดมาให้มีคุณภาพสูง
i’Life โปรแกรมที่ทาง Apple แถมมาให้พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Mac OS X ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโปรแกรมฟรีทั้งหมดที่เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐาน แถมยังมีคุณภาพในการใช้งานที่สูง ไม่จำเป็นต้องไปหาโปรแกรมอื่นๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมอย่างใน Windows เลย สำหรับตัวอย่างโปรแกรมที่อยู่ใน i’Life จะมี อาทิ โปรแกรม iTunes สำหรับการใช้ฟังเพลง โปรแกรม iPhoto ไว้จัดการภาพถ่ายพร้อมตกแต่งได้เล็กน้อย โปรแกรม iMovie ใช้ในการตัดต่อวีดีโอเบื้องต้น โปรแกรม Safari สำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ต เป็นต้น นอกเหนือจากนั้นโปรแกรมส่วนมากของ Mac สามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ ในอินเตอร์เน็ต




7. การดีไซน์ออกแบบตัวเครื่องมีความล้ำสมัย
เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบและเห็นหันดีอยู่แล้ว จากการออกแบบตัวเครื่อง Mac และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อย่าง iPhone, iPod และ iPad ที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำในโลกของสินค้าไอที โดยเรียกได้ว่าเน้นดีไซน์การออกแบบที่สวยงามเป็นหลัก สามารถใช้งานเป็นเฟอนิเจอร์เพื่อประดับในที่ทำงานหรือภายในบ้านได้อย่าง สบายๆ อีกทั้งยังมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งเมื่อเราพกพาไปใช้งานข้างนอก คนอื่นที่มองผ่านๆ ก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นเครื่อง Mac ทันที






8. งานประกอบเรียบร้อยใช้วัสดุคุณภาพสูง
Apple ได้สรรค์หาวัสดุคุณภาพสูงมาเป็นส่วนประกอบใน Mac ตั้งแต่หน้าจอที่ใช้หน้าจอคุณภาพสูงอย่าง IPS ที่หาได้ยากในคอมพิวเตอร์ทั่วไป โครงสร้างตัวเครื่องขึ้นรูปด้วยโลหะอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทาน ตลอดจนคีย์บอร์ด ที่ชาร์จอย่าง Macsafe และฮาร์ดแวร์ส่วนอื่นๆ ที่ใช้ในเครื่อง Mac ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ของเกรด A แทบทุกๆ ชิ้นส่วน ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองง่ายๆ จากการไปลองสัมผัสและจับเล่นที่ร้านดู 





9. มีการเข้ากันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์โดยสมบูรณ์ 
ด้วยการที่ Apple นั้นเป็นคนที่ออกแบบทั้งในส่วนของตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ระบบ ปฏิบัติการด้วยตนเองเพียงรายเดียวทั้งหมด ดังนั้นในเรื่องของการเข้ากันได้ของอุปกรณ์จึงไม่มีปัญหาแม้แต่น้อยเลย มีการทำงานได้อย่างลงตัวเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเข้าขึ้นสมบูรณ์แบบทีเดียว ทำให้ Mac ได้รับการยอมรับจากเหล่ามืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น ช่างภาพช่างวีดีโอ นักกราฟฟิก แน่นอนว่าแตกต่างจากคอมพิวเตอร์หลายแบรนด์ ที่ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ต่างแยกกันผลิต ซึ่งทำให้การติดตั้งและใช้งานต้องเสียเวลาในการเรียนรู้ศึกษาอยู่พอมควร 




10. สามารถเลือกใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows ได้
ในการที่เราใช้เครื่อง Mac นั้นแน่นอนว่าระบบปฏิบัติการของเราจะต้องเป็น Mac OS X แต่หากใครจำเป็นต้องการใช้งาน Windows ก็ยังสามารถติดตั้งเพิ่มเติมลงไปใน Mac ได้ โดยเราสามารถติดตั้งผ่านโปรแกรม Boot Camp ของ Apple เอง ซึ่งสามารถเลือกบูตใช้งานจาก Mac ได้ขณะที่เราเปิดเครื่อง และยังใช้งานได้อย่างสมบูรณ์เต็มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นไดร์วเวอร์หรือปุ่ม คีย์ลัดต่างๆ หรือถ้าหากใครต้องการใช้งานเล็กน้อย ก็ยังสามารถติดตั้ง Windows ผ่านโปรแกรมจำลองระบบต่างๆ อย่าง VM Ware หรือ Parallels Desktop ได้


Credit:http://hitech.sanook.com/943264/10-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-mac-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-os-x-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87-5-%E0%B8%82%E0%B9%89/

รู้จักกับส่วนประกอบต่างๆ Desktop Mac (เพิ่มเติม)



          Desktop หรือว่าหน้าต่างแรกที่เราจะเข้ามาเจอตอนเปิดเครื่องเป็นพื้นที่หลักในการทำ งานบนเครื่องของเรา และยังใช้สำหรับให้เราจัดการเข้าถึงทรัพยากร หรือส่วนต่าง ๆ ของเรื่องเราได้โดยง่าย (คล้าย ๆ กับบน windows pc)



  
desktop_8.jpg
มีส่วนประกอบทั่วไปดังนี้

desktop_9.jpg

1.Menu Bar - เมนูบาร์ : แถบแสดงคำสั่ง + icon แสดงสถานะการทำงานของเครื่อง
  • ทางด้านมุมบนซ้ายมือ เป็นแถบที่อยู่ของชุดคำสั่งของแต่ละโปรแกรม
  • ส่วนทางด้านขวามือจะเป็นไอคอน เกี่ยวกับการทำงานทั่วไปของเครื่อง เช่น ระดับคุณภาพสัญญาณไวเลส, Bluetooth, ระดับแบตเตอรี่, เวลา, วันที่, account ที่ใช้งานอยู่ และ Spotlight (จะเรียกส่วนนี้ว่า Menu Bar Extra ก็ได้)
1.1. Active application : ตรงนี้จะเป็นตัวบอกว่าเรากำลังใช้งาน application อะไรอยู่ (โดยจะเปลี่ยนไปตาม application ที่เราใช้งานอยู่ล่าสุดเสมอ)



2.Hard disk icon : แสดง icon ของ Hard disk (HD) เราบนเครื่อง จำนวนขึ้นอยู่กับ partition ที่แบ่งเอาไว้ภายในเครื่อง และ จำนวน HD ที่ถูกเชื่อมต่อภายนอก


3.Desktop : พื้นที่ทั้งหมดนี้ เรียกว่า Desktop


4.Dock : เป็นแหล่งรวม icon ของ applications ต่าง ๆ ให้เราเรียกใช้ได้โดยสะดวกมากขึ้น (สามารถลาก icon โปรแกรมที่อยากได้มาลงเพิ่ม/ ปรับลดได้) + ใน 10.5 นี้มี Stack มาเป็น Feature ใหม่เพิ่มขึ้นมาบน Dock ด้วย


5.Finder Window : หน้าต่างของโปรแกรม Finder (ประมาณ windows explorer) เอาไว้สำหรับค้นหา/ บริหาร / เข้าถึงเพื่อจัดการกับไฟล์ต่าง ๆ ที่อยู่ในเครื่องเรา


6.Stack : เป็นความสามารถใหม่ที่เพิ่งมีบน OS X Leopard มีจุดประสงค์เพื่อสดความสับสนของจำนวนไฟล์ที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ บน desktop ของเรา โดยที่ติดมากับเครื่องทีแรกเลยจะมี 2 stack คือ
  • Documents : เข้าถึง Documents folder จาก dock
  • Download : อะไรที่เราโหลดมา จะมารวมกันอยู่ในนี้ (เว้นแต่ว่าเราจะกำหนดให้ download ไปลงที่อื่น)
บางคนอาจจะสับสนว่า แล้วมันต่างอะไรกับการสร้าง folder แล้วลากมาวางบน dock?
ที่แตกต่างจาก Folder คือ Stack จะแสดงไฟล์ที่ถูกจับโยนลงมาล่าสุดให้เราได้เห็นเป็น icon เล็ก ๆ ครับ (ซึ่งจะเปลีี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามไฟล์ที่ถูกใส่ลงมาล่าสุด) ... เท่านี้ครับ เท่านี้จริง ๆ - -a ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะ ผสม ๆ กันก็ได้
stack_2.png
จากภาพ 1.stack สำหรับไฟล์ชั่วคราว / 2.Documents folder / 3.Download stack / 4.trash



7.Trash : ถังขยะประจำเครื่อง เอาไว้สำหรับลบไฟล์ที่ไม่ต้องการ หรือลบ application ที่ไม่ต้องการทิ้งไป
(ใช้สำหรับการ uninstall บาง application ได้ด้วย) โดยที่ไฟล์ที่ถูกเราลบจะถูกนำมาพักไว้ในถังขยะนี้ก่อน (เหมือนบน windows pc) ถ้าเราต้องการที่จะลบไฟล์ออกจริง ๆ ให้คลิ๊กขวาแล้วเลือก Empty Trash
emptytrash_2.png
note :
  1. ในบางกรณีถ้าเราจะลบไฟล์ที่ lock เอาไว้ เครื่องจะฟ้องเราว่าไฟล์นี้ถูก lock อยู่ ต้องกด Option ค้างเอาไว้ตอนเลือก Empty Trash ด้วย จึงจะสามารถลบไฟล์ที่ lock เอาไว้ใน Trash ได้
  2. ไฟล์ที่มาอยู่ใน Trash แล้ว จะไม่มีปุ่มลัดเพื่อนำกลับไปไว้ที่เดิม ... ดังนั้น โปรดระวังก่อนนำไฟล์ลงถัง นะครับ



8.Spotlight : ค้นหาทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในเครื่อง การทำงานคร่าว ๆ ของ spotlight คือ คล้าย ๆ กับการค้นหา โดย search engine บนเครื่องเรา เช่น ลองพิมพ์คำว่า mac ลงไป ผลลัพท์ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า mac จากในส่วนต่าง ๆ ของเครื่องจะขึ้นมาให้เราเห็น พร้อมทั้งแยกประเภทของไฟล์ต่าง ๆ ที่ค้นเจอมาให้ด้วย ยิ้ม
spotlight-result_2.jpg                                                                        
Credit:http://www.macmuemai.com/content/20

Mission Contro


                    
     Mission Control เป็นคุณสมบัติใหม่ที่มีมากับ Mac OS X Lion มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับการทำงานระหว่าง Application ต่างๆได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการใช้งานคุณสมบัติ  Dashboard , Expos'e และ Space อีกด้วย


  • Expos'e  เป็นวิธีที่ทำให้สลับหน้าต่างในการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
  • Dashboard เป็นเหมือนกระดานที่รวมรวบ Utility ที่เรียกใช้งานบ่อยๆเอาไว้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เช่น ปฏิทิน นาฬิกา เครื่องคิดเลข
  • Space    เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการทำงานเสมือนต่อจอ Monitor ไว้หลายจอ


หน้าจอ Dashboard



หน้าจอโดยรวมของ Mission Control

 
วิธีการเรียกใช้งาน Mission Control
  1. เรียกใช้งานผ่าน Trackpad  โดยใช้นิ้ว 3 หรือ 4 นิ้วตามที่ตั้งค่าไว้ วางไว้บน Trackpad แล้วเลื่อนขี้น
  2. เรียกใช้งานผ่าน Keyboard โดยการกดปุ่มเดียวกับปุ่ม F3 ซึ่งใน Keyboard ใหม่ของ Mac รุ่นใหม่จะมีสัญลักษณ์แสดงให้เห็น
  3. เรียกใช้งานผ่าน Dock โดยการกดที่ Icon ของ Mission Control
  4. เรียกใช้งานผ่าน  Hot corner

Icon Mission Control บน Dock


 
วิธีการปรับแต่ง Hot corner เพื่อเรียกใช้งาน Option ต่างๆ
  • ไปที่ System Preferences >> Mission Control
  • กดทึ่ปุ่ม Hot corners ตรงมุมซ้ายล่าง


  • เลือกคำสั่งใส่ลงในแถบต่างๆได้ โดยวิธีใช้ Hot corner เพียงแค่นำลูกศรไปวางไว้ตรงมุมที่ต้องการก็จะปรากฏ Option ต่างๆตามที่ได้ตั้งค่าไว้ อย่างอัตโนมัติ

โดยสามารถเลือกปรับแต่งได้ดังนี้
  • Mission Control 
  • Application Windows
  • Desktop
  • Dashboard
  • Launchpad
  • Start Screen saver
  • Disable Screen saver
  • Put Display to Sleep
  • -


สลับหน้าต่างด้วย Expos'e
 
       สำหรับบาง Application เราสามารถเปิดได้หลายหน้าต่างพร้อมกัน เช่น Application สำหรับเปิดเอกสาร   ในกรณีนี้เราสามารถสลับหน้าต่างการใช้งานได้อย่างรวดเร็วผ่าน Expos'e โดย Expos'e  จะแสดง Application ที่เปิดอยู่ทั้งหมด และยังแสดงไฟล์ที่ถูกใช้งานทั้งหมดใน Application เดียวกัน รวมไปถึงไฟล์ที่อยู่ ใน Folder เดียวกันด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถสลับการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

   Tip ## อีกวิธีนึงที่นิยมใช้ คือการกดปุ่ม command ค้างไว้แล้วกดปุ่ม Tab ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้หน้าต่าง Application ที่ต้องการ

 
 
เพิ่มพื้นที่การทำงานด้วย Space
 
     เป็นการเพิ่มพื้นที่ทำงานเปรียบเสมือนการมีหน้าจอ Monitor เพิ่ม สามาถสร้างได้สูงสุดถึง 16 Space โดยในการสร้าง space เพิ่มสามารถทำได้ในขณะที่อยู่ในหน้าต่าง Mission Control 


เลื่อนลูกศรไปยังมุมขวาบนขณะที่อยู่ในหน้าต่าง Mission Control เพื่อเพิ่ม Space

 
การสลับการทำงานในหน้าต่าง Space
  • ใช้ Hot key โดยการกด control ค้างไว้แล้วกดปุ่มซ้ายขวาตามต้องการ
  • ใช้ Trackpad โดยการใช้ นิ้วมือ 3 หรืิอ 4 นิ้ว ลากไปทางซ้ายหรือขวาตามต้องการ
  • ใช้ mouse เลือก Space จากหน้าต่าง Mission Control ตามต้องการ
การโยกย้ายและการจัดการ Application ใน Space
จากหน้าต่าง Mission Control สามารถลาก Application ที่ต้องการไปวางใน Space อื่นได้ทันที

 
การลบ Space
 
    จากหน้าต่าง Mission Control นำลูกศรไปวางตรงมุมซ้ายของหน้าต่าง Space ที่ต้องการจะลบจะปรากฏปุ่มกากบาท กดแล้ว Space นั้นจะหายไป หากมี Application ที่เปิดใช้งานอยู่ Application นั้นจะย้ายไปอยู่ Space หลักให้อัตโนมัติ



ใน Space Desktop2 มี Application เปิดใช้งานอยู่


เมื่อทำการลบ Space Desktop2 Application ที่เปิดอยู่จะย้ายไปอยู่ใน Space Desktop โดยอัตโนมัติ

การจดจำการทำงานของทุก Space ไว้แม้จะปิดเครื่อง
เป็นคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของ Mac OS X Lion ที่ชื่อว่า Resume คือเมื่อเปิด Application ใดๆทิ้งไว้หากปิดเครื่องสามารถจำสถานะทิ้งหมดก่อนการปิดเครื่องได้


ก่อนปิดเครื่องหากต้องการให้จำสถานะก่อนปิดเครื่องให้เลือกเครื่องหมายถูก

 
Credit:http://osxliondocs.blogspot.com/2012/01/mission-control.html

Track pad


Trackpad คืออะไร ?

Trackpad หรือ Multi - Touch Trackpad เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แทน Mouse เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานโดยเฉพาะการใช้งานสำหรับ MacBook ( Notebook ของ Apple ) โดยหากเป็น MacBook จะอยู่ส่วนล่างของแป้นพิมพ์มีหน้าตาเป็นรูปแผ่นสี่เหลี่ยมนั่นเอง



 ถ้าหากเป็น iMac หรือ Mac mini ก็สามารถหาเจ้า Magic Trackpad มาเป็นอุปกรณ์เสริมได้ เช่นเดียวกัน

Trackpad สามารถรองรับระบบ Multi - Touch ได้ โดยระบบนี้สามารถสั่งงานได้ทันทีผ่านการสัมผัสเท่านั้นและยังสามารถรองรับ การสั่งงานพร้อมกันได้ถึง 4 นิ้วด้วยกัน โดยตัวระบบจะแปลความหมายของการสัมผัส Trackpad เป็นคำสั่งต่างๆ ซึ้งทำให้การใช้งานมีความรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น


วิธีการใช้งานและการปรับแต่งการใช้งาน Trackpad
 
 
ใน Mac OS X Lion มี VDO สอนการใช้งาน  Multi - Touch Trackpad ให้อยู่แล้วในส่วนของ System Preferences >> Trackpad ในขั้นตอนการปรับแต่งจะมี VDO การใช้งานแสดงอยู่ด้วย




ใน Mac OS X Lion นี้จะแบ่งการใช้งาน Trackpad เป็น 3 ประเภท ได้แก่ Point & Click , Scoll & Zoom , More Gustures

Point & Click



  • Tab to click  เป็นการเปิด การใช้งานการ Tab ( การสัมผัสพื้นผิวของ Trackpad ) แทนการ Click ( การกดลงบนพื้นผิวของ Trackpad  )
  • Secondary click  เป็นการเปิดการใช้งาน การใช้งานนิ้วทั้งสองนิ้วพร้อมกันแทนการ Click ขวา และสามารถปรับเป็น สัมผัสหรือกดที่มุมซ้ายล่างหรือมุมขวาล่างของ Trackpad ก็ได้
  • Look up  เป็นการเปิดการใช้งาน การค้นหาคำอธิบายคำต่างๆในแหล่งอ้างอิง โดยใช้งานนิ้วทั้งสามนิ้วพร้อมกันโดยการ สัมผัวหรือกดไปที่ Trackpad สองครั้ง
  • Three finger drag  เป็นการเปิดการใช้งานการลากวัตถุที่ต้องการด้วยการใช้นิ้วมือสามนิ้ว โดยไม่จำเป็นต้องเลือกวัตถุนั้นก่อนที่จะ Drag เพียงให้ลูกศรไปชี้ที่วัตถุที่ต้องการก็สามารถ Drag ได้ทันที
  • Tracking Speed  เป็นการปรับระดับความเร็วในการตอบสนองการใช้งาน Trackpad

Scoll & Zoom




  • Scroll direction : natural  เป็นการใช้งาน Scroll แบบธรรมชาติซึ่งโดยปกติ การแสดงผลของหน้าจอจะเป็นไปตามทิศทางของการ Scroll เช่น Scroll up ใช้เลื่อนขึ้น Scroll Down ใช้เลื่อนลง แต่ถ้าหากเปิดใช้งาน option  นี้แล้วการแสดงผลเวลาใช้งาน Scroll จะสลับกันนั่นเอง
  • Zoom in or out  เป็นการเปิดการใช้งานการย่อ - ขยาย หน้าจอโดยใช้นิ้วสองนิ้วเลื่อนเข้าหากันหรือเลื่อนออกจากกัน เพื่อทำการย่อ ขยาย ตามลำดับ โดยอ้างอิงตำแหน่งตรงกลางจากลูกศร
  • Smart Zoom  เป็นการเปิดการใช้งานการขยายสิ่งที่เราต้องการให้แสดงผลเต็มหน้าจอ ทำได้โดยการใช้นิ้วมือสองนิ้ว สัมผัสหรือกดลงบน Trackpad สองครั้ง
  • Rotate  เป็นการเปิดการใช้งานการหมุนรูป โดยการใช้นิ้วมือสองนิ้วเลื่อนสลับตำแหน่งกันเป็นวงกลม

More Gustures


  • Swipe between pages  เป็นการเลือกใช้งานการเปลี่ยนหน้าเอกสารหรือหน้า web page โดยการใช้นิ้วมือที่กำหนด Scroll ไปทางซ้ายเพื่อเลื่อนไปยังหน้าที่แล้วหรือ Scroll เพื่อเลื่อนไปยังหน้าถัดไป สามารถปรับแต่งได้ว่าต้องการใช้นิ้วมือ 2 นิ้วหรือ 3 นิ้ว
  • Swipe between full-screen apps  เป็นการเลือกใช้งานการเปลี่ยน ไปใช้งานโปรแกรมอื่น โดยการใช้นิ้วมือที่กำหนดทำการเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวาของ Trackpad สามารถปรับแต่งได้ว่าต้องการใช้นิ้วมือ 3 นิ้วหรือ 4 นิ้ว
  • Mission Control  เป็นการแสดงสิ่งที่เรากำลังเปิดใช้งานทั้งหมด โดยแสดงให้เห็นในหน้าจอเดียว โดยการใช้นิ้วมือที่กำหนดเลื่อนจากล่างขึ้นบนตาม Trackpad  สามารถปรับแต่งได้ว่าต้องการใช้นิ้วมือ 3 นิ้วหรือ 4 นิ้ว


หน้าจอแสดง Mission Control

  • App Expose  เป็นการปรับแต่งให้แสดงผลของการงานจากโปรแกรมด้วย กันให้อยู่ในหน้าจอเดียวโดยการใช้นิ้วมือที่กำหนดเลื่อนจากบนลงล่างตาม Trackpad  สามารถปรับแต่งได้ว่าต้องการใช้นิ้วมือ 3 นิ้วหรือ 4 นิ้ว

หน้าจอแสดง App Expose
  • Launchpad  เป็นการเปิดการใช้งาน Launchpad ( การแสดงผลของ Desktop เหมือนระบบ iOS เช่น iPhone iPad ) โดยการใช้นิ้วมือ 4 นิ้วทำการเลื่อนเข้าหากัน

หน้าจอแสดง Launchpad

  • Show Desktop  เป็นการเปิดการใช้งานการแสดง Desktop เมื่อใช้นิ้วมือ 4 นิ้วเลื่อนออกจากกัน                                                                                                                                                                                                    Credit: http://osxliondocs.blogspot.com/2012/01/trackpad.html                        

Launchpad



           อย่างที่ทราบกันไปในบทความที่แล้วว่า Launchpad คืออะไรกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ในบทความนี้ เราจะมารู้ถึงการจัดการต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Launchpad  เนื่องจาก Launchpad  นำแนวความคิดมาจาก iOS ซึ่งหากคุณเป็นผู้ที่คุ้นเคยสำหรับการใช้งาน iPhone iPad มาแล้วนั้น บทความนี้คุณอาจจะเข้าใจมาแล้วทั้งหมดก็เป็นได้หรืออาจจะทำให้คุณเข้าใจใน การใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
 



การเรียกใช้งาน Launchpad  สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้


  • เรียกใช้งานผ่าน Track pad  โดยการใช้นิ้วมือ 4 นิ้วทำการเลื่อนเข้าหากัน
  • เรียกใช้งานผ่าน Dock โดยการกดที่ Icon บน Dock
  • เรียกใช้งานคุณสมบัติของ Hot corners ซึ่งจะอธิบายในบทความอื่นต่อไป


หน้าจอ Launchpad


การเปลี่ยนหน้าใน Launchpad  

ถ้ามี Application ที่ติดตั้งไว้เป็นจำนวนมาก ตัว Launchpad จะแบ่ง Application ออกเป็นหลายๆหน้า หากเราต้องการจะเปลี่ยนการใช้งาน Launchpad ไปยังหน้าอื่นๆ สามารถทำได้โดยการใช้นิ้วมือ 2 นิ้วลากไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเปลี่ยนหน้า Launchpad ได้ตามต้องการ

 
 
การจัดเรียง Application บนหน้าจอ
  • เลือก Icon ที่ต้องการค้างไว้จน Icon สั่น หลังจากนั้นสามารถย้ายไปที่ต่างๆได้ตามต้องการ
  • ถ้าต้องการนำไปยัง หน้าอื่นใน Application ให้ลาก Icon นั้นไปยังขอบหน้าจอทิ้งไว้ แล้วรอสักครู่
  • ถ้าต้องการให้ Application นั้นไปไว้ตรง Dock สามารถลากไปใส่ได้ตามปกติ

 
 
การนำ Application ต่างๆไปรวมไว้ใน Folder เดียวกัน

  • เลือก Icon ที่ต้องการค้างไว้จน Icon สั่น
  • หากลาก Icon ที่ต้องการไปรวมกับ Icon อื่นจะเป็นการสร้าง Folder ขึ้นมาใหม่โดยที่มี Icon ที่เราเลือกและ Icon ที่ถูกรวม อยู่ใน Folder เดียวกัน

ลาก Icon มารวมกัน


เป็น Folder ใหม่ที่มี Icon ทั้งสองอยู่ใน folder เดียวกัน

  • ลาก Icon ที่ต้องการไปยัง Folder  ที่มีอยู่แล้วจะเป็นการ นำ Icon นั้นเพิ่มข้าไปใน Folder ที่มีอยู่

นำ Icon ไปรวมกับ folder ที่มีอยู่แล้ว


Icon นั้นถูกรวมไว้ใน folder


## Tip ##

  • กดที่ชื่อ Folder เพื่อทำการเปลี่ยนชื่อ Folder
  • หากทำการเลือก Folder อยู่ กดที่ Folder อีกครั้งจะเป็นการกลับไปยังหน้า Launchpad
  • หากลาก Icon ใน Folder ออกมานอกแถบ Folder จะเป็นการนำ Application ออกจาก Folder                                                                                                                       Credit: http://osxliondocs.blogspot.com/2012/01/launchpad.html

ปรับแต่งการแสดงผลที่ต้องการใช้งานเพิ่มเติม


1. ปรับแต่งภาษาไทยให้ใช้งานกับระบบ


1.1 เลือก System Preferences ที่อยู่บน Dock


1.2 เลือกคำสั่ง Language & Text





1.3 ไปที่แถบ Language เลือก Edit List ตรงมุมซ้ายล่าง


1.4 เลือกเครื่องหมายถูกหน้าภาษาที่ต้องการ



1.5 ในแถบ Formats เป็นการปรับแต่งเกี่ยวกับตัวเลข ปฏิทิน และสกุลเงิน


ในส่วนของ Region : ให้เลือกเป็น Thailand (Thai)
ในส่วนของ Calendar : หากต้องการให้แสดงผลเป็นปีพุทธศักราช ให้เลือกเป็น Buddhist
ในส่วนของ Cerrency : เป็นการแสดงผลของสกุลเงิน ให้เลือกเป็น Thai Baht

1.6 ในแถบ Input Sources เป็นการปรับแต่งภาษาที่ใช้ในการพิมพ์


  • เลือกเครื่องหมายถูก หน้าช่องของภาษาที่เราต้องการ
  • หากเลือก Show Input menu in menu bar  จะแสดงสัญลักษณ์ภาษาตรง Status bar
1.7 หากต้องการ Hot Key ไว้สำหรับเปลี่ยนภาษาที่ใช้พิมพ์ ให้เลือกที่ Keyboard Shortcuts


  • ในแถบของ Keyboard & Text Input ให้เลือกเครื่องหมายถูกในช่อง Select the previous input source 


  •  ใน Mac OS X Lion นี้ หากเราใช้ Hot key เปลี่ยนภาษาทีใช้พิมพ์ที่ทาง Mac OS ตั้ง Defaults ไว้ให้ เราจำเป็นที่จะต้องไปยกเลิก Hot Key ของการใช้งาน Sportlight ด้วย เนื่องจาก Hot Key มันเหมือนกัน โดยไปที่แถบ Sportlight แล้วนำเครื่องหมายถูกออก

วิธีการสลับภาษาสำหรับพิมพ์ สามารถทำได้ 2 วิธี 



1. เลือกที่ Icon รูปภาษาตรง Status bar  แล้วเลือกภาษาที่ต้องการจะใช้



2. ใช้ Hot key ที่ตั้งไว้โดยการกดปุ่ม Command + Spacebar ในกรณีที่มีภาษาที่ต้องการใช้มากๆ สามารถกด Hot key  ค้างไว้เพื่อเลือกภาษาได้
 
Credit:
 http://osxliondocs.blogspot.com/2012/01/blog-post.html